ที่มา : http://thaibaba.net/undefined-6/
ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี E-mail = phen213@hotmail.com Tel. 042-219355 Facebook = โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแสนตอ
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ตำแหน่งการปวดท้องก็บอกโรคได้
วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558
ยุงชอบกัดคนประเภทไหน
ที่มา : http://www.dewdrop.co.th/main/2013-05-25-00-47-08/33-health-article009
www.kapook.com , สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข, ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค
วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันหมดอายุของยา
ยาทุกชนิดมีวันหมดอายุหรือวันสิ้นอายุ การที่ยาหมดอายุหมายความว่า ยานั้นไม่มีประสิททธิภาพในการรักษาโรค เนื่องจากตัวยาสลายตัวหรือไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ วันหมดอายุของยาจะระบุไว้ที่ฉลากข้างขวดหรือข้างกล่อง หรือบนแผง โดยระบุไว้หลายแบบดังนี้
1. ระบุเป็นภาษาอังกฤษคำว่า "Exp. date" เช่น Exp. date 2/5/1996 หมายความว่า ยาหมดอายุวันที่ 2 พฤษภาคม 2539 ปัจจุบันแต่ละบริษัทยามักระบุวันหมดอายุเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งทำให้ดูง่ายมากขึ้น
2. ระบุเป็นภาษาอังกฤษคำว่า "Used before" เช่น Used before Aug. 1996 หมายความว่า ควรใช้ยาก่อน วันที่ 31 ส.ค. 2539
กรณีที่ระบุอายุแค่เดือน ปี ไม่มีวันที่ที่แน่ชัด ให้นับถึงวันสุดท้ายของเดือนนีั้นเป็นวันหมดอายุ เช่น 3/07 หมายความว่าหมดอายุวันที่ 31 มีนาคม 2007
3. กรณีที่ไม่ได้กำหนดวันหมดอายุของยาไว้ให้ดูจากวันที่ที่ผลิต ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษจะมีคำว่า M.F.D หรือ Mfd. date แล้วตามด้วยวันเดือนปีที่ผลิตยานั้น ให้เรานับวันหมดอายุจากวันที่ที่ผลิต โดยทั่วไปยาเม็ดไม่ควรนำมาใช้เมื่อผลิตนานกว่า 3 ปี ส่วนยาน้ำไม่ควรนำมาใช้เมื่อมีอายุนานกว่า 2ปีนับจากวันผลิต อ่านต่อ
"ยาที่หมดอายุแล้ว ห้ามนำมาใช้กับผู้ป่วย
เพราะนอกจากจะรักษาไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจทำให้เป็นอันตรายต่อ ตับ ไต
หรืออาจทำให้เกิดโรคอื่นๆได้ด้วย"
ที่มา: คู่มือร้านยา ความรู้เรื่องยาเบื้องต้น และแนวทางการซักถามเพื่อให้การรักษาขั้นต้น โดย จิรัชฌา อุดมชัยสกุล และ http://www.drugservonline.com/
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต
1. มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ พร้อมที่จะบริจาคโลหิต
2.อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่มีอายุ 17 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี
2.1 การคัดเลือกผู้บริจาคโลหิตอายุ > 60-70 ปี
2.1.1 ผู้บริจาคโลหิตอายุ >60-65ปี
1). เป็นผู้บริจาคโลหิตประจำมาโดยตลอดจนกระทั่งอายุ 60 ปี
2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 3 ครั้งคือทุก 4 เดือน
3). ตรวจ Complete Blood Count ( CBC ) ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต
4). ตรวจ Serum Ferritin ( SF ) , Blood Chemistry ( BC ) ปีละ 1 ครั้ง
5). แพทย์หรือพยาบาลพิจารณาและบันทึกผล SF และค่า Hb และ Hematocrit และค่าที่ผิดปกติของการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ถ้าผลเลือดและความดันโลหิตปกติ อนุญาตให้บริจาคโลหิตได้
2.1.2 ผู้บริจาคโลหิตอายุ > 65-70ปี
1). เป็นผู้บริจาคโลหิตต่อเนื่องสม่ำเสมอในช่วงอายุ > 60-65 ปี
2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง คือทุก 6 เดือน
3). ตรวจ CBC ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต
4). ตรวจ BC, SF, และ EKGปีละ 1 ครั้ง
5). มีใบรับรองแพทย์ ออกโดยแพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ของศูนย์บริการโลหิตฯ
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในเวลาปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิตอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
4. ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ใน 7 วันที่ผ่านมา หรือกำลังเป็นไข้หวัด
5. สตรีไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
6. น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ
7. หากรับประทานยาแอสไพริน, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 3 วัน ถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน
8. ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรัง, วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่นๆ
9. ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, หัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง, ไทรอยด์,โลหิตออกง่าย-หยุดยาก หรือโรคประจำตัวอื่นๆ
10. หากถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนหรือรักษารากฟัน ต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน
11. หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน, ผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 1 เดือน
12.ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเบี่ยงเบนทางเพศ
13. ต้องไม่มีประวัติยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษ ต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี
14. หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสักหรือฝังเข็มในการรักษา ต้องเกิน 1 ปี
15. หากมีประวัติเจ็บป่วยและได้รับโลหิตของผู้อื่น ต้องเกิน 1 ปี
16. หากมีประวัติเป็นมาเลเรีย ถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปี หากเคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุม ต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงบริจาคโลหิตได้
17. ต้องไม่ได้รับวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือเซรุ่มในระยะ 1 ปี ที่ผ่านมา
18. ก่อนบริจาคโลหิตต้องรับประทานอาหารให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่างๆ
1. มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ พร้อมที่จะบริจาคโลหิต
2.อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่มีอายุ 17 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง ถ้าเป็นผู้บริจาคครั้งแรกต้องอายุไม่เกิน 55 ปี
2.1 การคัดเลือกผู้บริจาคโลหิตอายุ > 60-70 ปี
2.1.1 ผู้บริจาคโลหิตอายุ >60-65ปี
1). เป็นผู้บริจาคโลหิตประจำมาโดยตลอดจนกระทั่งอายุ 60 ปี
2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 3 ครั้งคือทุก 4 เดือน
3). ตรวจ Complete Blood Count ( CBC ) ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต
4). ตรวจ Serum Ferritin ( SF ) , Blood Chemistry ( BC ) ปีละ 1 ครั้ง
5). แพทย์หรือพยาบาลพิจารณาและบันทึกผล SF และค่า Hb และ Hematocrit และค่าที่ผิดปกติของการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ถ้าผลเลือดและความดันโลหิตปกติ อนุญาตให้บริจาคโลหิตได้
2.1.2 ผู้บริจาคโลหิตอายุ > 65-70ปี
1). เป็นผู้บริจาคโลหิตต่อเนื่องสม่ำเสมอในช่วงอายุ > 60-65 ปี
2). บริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง คือทุก 6 เดือน
3). ตรวจ CBC ทุกครั้งก่อนบริจาคโลหิต
4). ตรวจ BC, SF, และ EKGปีละ 1 ครั้ง
5). มีใบรับรองแพทย์ ออกโดยแพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ของศูนย์บริการโลหิตฯ
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในเวลาปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิตอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
4. ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ใน 7 วันที่ผ่านมา หรือกำลังเป็นไข้หวัด
5. สตรีไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
6. น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ
7. หากรับประทานยาแอสไพริน, ยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 3 วัน ถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่นๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน
8. ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรัง, วัณโรค หรือภูมิแพ้อื่นๆ
9. ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, หัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง, ไทรอยด์,โลหิตออกง่าย-หยุดยาก หรือโรคประจำตัวอื่นๆ
10. หากถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนหรือรักษารากฟัน ต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน
11. หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือน, ผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 1 เดือน
12.ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเบี่ยงเบนทางเพศ
13. ต้องไม่มีประวัติยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษ ต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี
14. หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสักหรือฝังเข็มในการรักษา ต้องเกิน 1 ปี
15. หากมีประวัติเจ็บป่วยและได้รับโลหิตของผู้อื่น ต้องเกิน 1 ปี
16. หากมีประวัติเป็นมาเลเรีย ถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปี หากเคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุม ต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงบริจาคโลหิตได้
17. ต้องไม่ได้รับวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือเซรุ่มในระยะ 1 ปี ที่ผ่านมา
18. ก่อนบริจาคโลหิตต้องรับประทานอาหารให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่างๆ
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558
ละเลยอาหารเช้าบ่อยๆ ระวังนะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)