ขอบคุณเนื้อหาจาก คู่มือการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุข ในการดูแลและเฝ้าระวังสตรีไทยจากมะเร็งเต้านม |
ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี E-mail = phen213@hotmail.com Tel. 042-219355 Facebook = โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแสนตอ
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
คำถามที่พบบ่อย เรื่องมะเร็งเต้านม
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
โรคขาดสารไอโอดีน
สารไอโอดีนคืออะไร
| |
สารไอโอดีน เป็นธาตุเคมีที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติแต่ไม่สม่ำเสมอ และมีมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ พบมากในดินและแถบที่ราบลุ่มแม่น้ำ ชายทะเล และทะเลซึ่งเป็นผลให้พืชผักและสัตว์จากทะเลมีสารไอโอดีนมากด้วย | |
ประโยชน์ของสารไอโอดีน | |
สารไอโอดีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ใช้ในการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดทำหน้าที่ควบคุมอวัยวะต่างของร่างกายให้ดำเนินไปอย่างปกติ โดยกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายโดยเฉพาะระบบสมองและประสาท นอกจากนี้ยังมีผลต่อการสร้างโปรตีนของกล้ามเนื้อของร่างกาย และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงและเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมันและวิตามินอีกด้วย | |
ความต้องการสารไอโอดีน | |
| |
แหล่งอาหารที่มีสารไอโอดีน | |
ที่เหมาะสมที่สุดคือ อาหารที่มาจากทะเลทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ เช่น | |
โรคขาดสารไอโอดีน | |
โรคขาดสารไอโอดีน หมายถึงภาวะร่างกายได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเป็นประจำ ซึ่งมีผลต่อการสร้างธัยรอยด์ฮอร์โมนทำให้เกิดการเสียสมดุลย์ในการควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ | |
ผลกระทบจากการขาดสารไอโอดีน | |
|
คำแนะนำในการรับประทานไอโอดีน
- ไอโอดีน ในรูปของอาหารเสริม โดยทั่วไปมักพบได้ในรูปของ วิตามินรวมและแร่ธาตุรวม โดยจะมีปริมาณประมาณ 150 ไมโครกรัม โดยสาหร่ายธรรมชาติเป็นแหล่งของไอโอดีนเสริมอาหารที่ดีที่สุด
- ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 150 ไมโครกรัม และสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรประมาณ 175 – 200 ไมโครกรัม
- การรับประทานไอโอดีนวันละ 50 ไมโครกรัม ก็สามารถช่วยป้องกันโรคคอพอได้แล้ว
- สำหรับผู้ที่รับประทานกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมาก สารบางอย่างในกะหล่ำปลีดิบอาจทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุไอโอดีนได้ ดังนั้น ควรหาอาหารเสริมที่อยู่ในรูปของวิตามินรวมและแร่ธาตุรวมมารับประทานเสริม
- สำหรับผู้ที่รับประทานวิตามินรวมและแร่ธาตุรวมเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ควรรับประทานไอโอดีนเสริมในรูปแบบอื่นๆอีก
- สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารทะเลเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ไม่ควรรับประทานไอโอดีนเสริมอีก
- สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพิการหรือปัญญาอ่อนของทารกในครรภ์
- สำหรับทารกแรกเกิดก็ควรได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอเช่นกัน เพราะจะช่วยให้เด็กมีความเฉลียวฉลาด และช่วยในการเจริญเติบโตของทารกแรกเกิด
- เนื่องจากไอโอดีนมีความสำคัญมากกับทุกเพศทุกวัย ก็ควรจะได้รับอย่างเพียงพอ
- เด็กในวัยเจริญเติบโต หากขาดไอโอดีนระดับไอคิวอาจต่ำลงหรือบกพร่องได้
- ช่วยพัฒนาสมองควบคุมระบบประสาท ทำให้ความคิดความอ่านไวขึ้น
- ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว โดยการเผลาผลาญไขมันส่วนเกิน
- ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย
- ช่วยทำให้ร่างกายมีพลังงาน เพิ่มความกระตือรือร้นได้
- ช่วยบำรุงสุขภาพเส้ยผม เล็บ ผิวพรรณ และฟัน ให้มีความแข็งแรง
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำนมของมารดาให้มากขึ้น
- ช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ ควบคุมการกระจายตัวของน้ำตามร่างกาย
- ป้องกันไม่ให้เด็กพิการ หญิงแท้งบุตรง่าย และอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)
สรุปอาการแสดงของโรคขาดสารไอโอดีน ตลอดช่วงชีวิตมนุษย์ |
ระยะของชีวิต | อาการแสดงทางคลินิคและผลกระทบที่เกิดขึ้น | |
ตัวอ่อนในครรภ์ | แท้ง หรือ ตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ / เพิ่มอัตราป่วยและอัตราตายในทารกช่วงอายุ 28 สัปดาห์ในครรภ์ จนถึง 28 วันแรกหลังคลอด / ปัญญาอ่อนอย่างถาวร (โรคเอ๋อ) / เชาว์ปัญญาลดลง สูญเสียการได้ยิน และมีความผิดปกติทางระบบประสาทและการเคลื่อนไหว | |
ทารกแรกเกิด - 2 ปี | คอพอก / ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ / เชาว์ปัญญาลดลง สูญเสียการได้ยิน และมีความผิดปกติทางระบบประสาทและการเคลื่อนไหว | |
เด็ก | คอพอก / ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ / ตัวเตี้ย แคระแกร็น สติปัญญาพัฒนาเชื่องช้า | |
ผู้ใหญ่ | คอพอก / ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำและมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากที่มีไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ มีอาการเกียจคร้าน เชื่องช้า ง่วงซึม ผิวหนังแห้ง ทนความหนาวเย็นไม่ค่อยได้ เสียงแหบ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องผูก |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)