โรคไข้เลือดออกเดงกี
| |||||||||
| |||||||||
ฝ่ายอาโบไวรัส
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ไวรัสเดงกี มี 4 ชนิด ได้แก่ ไวรัสเดงกีชนิดที่หนึ่ง , ไวรัสดงกีชนิดที่สอง , ไวรัสเดงกีชนิดที่สาม และไวรัสเดงกีชนิดที่สี่ เมื่อมีการติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วจะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีชนิดนั้นอย่างถาวรแต่จะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีอีก 3 ชนิดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 6-12 เดือน ดังนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีไวรัสเดงกีชุกชุมอาจมีโอกาสติดเชื้อได้ถึง 3 หรือ 4 ครั้ง
1. ระยะไข้ ประมาณ 2-7 วัน ทุกรายจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ซึ่งบางรายอาจมีอาการชักได้ ผู้ป่วยมักจะมีหน้าแดง ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการน้ำมูกหรืออาการไอ และอาจมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน บางรายอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย อาการเลือดออกที่อาจพบได้ในระยะนี้ คือ จุดเลือดออกเล็กๆกระจายอยู่ตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาจมีเลือดกำเดาออก หรือเลือดออกตามไรฟันได้ 2. ระยะวิกฤต/ช็อก เป็นระยะที่มีการั่วของพลาสมา โดยระยะรั่วจะมีประมาณ 24-48 ชั่วโมง ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว 3. ระยะฟื้นตัว ระยะฟื้นตัวของผู้ป่วยค่อนข้างเร็ว ในผู้ป่วยที่ไม่ช็อกเมื่อไข้ลดส่วนใหญ่ก็จะดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยช็อกถึงแม้จะมีอาการรุนแรง ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
1) ไข้เกิดอย่างเฉียบพลัน สูงลอย 2-7 วัน 2) อาการเลือดออก 3) ตับโต 4) ภาวะช็อก ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของผลทางเลือด 2 ประการ ได้แก่ 1) มีเกล็ดต่ำ 2) ความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น
การรักษาเบื้องต้นที่ผู้ปกครองสามารถทำได้ที่บ้าน คือ เมื่อผู้ป่วยมีไข้ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา ถ้ามีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส ให้ยาลดไข้พาราเซตตามอล ถ้าไข้ไม่ลดลงหลังให้ยาลดไข้ ให้เช็ดตัว ห้ามให้ยาลดไข้ถี่กว่า 4 ชั่วโมง ห้ามให้ยาลดไข้ชนิดอื่น เช่น แอสไพริน ยาซอง หรือ NSAID โดยเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เลือดออกมาก, มีอาการทางสมอง หรือตับวายได้ ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือน้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกีบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะช็อก ดังนั้นให้ผู้ปกครองรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการ ปวดท้องมาก, อาเจียนมาก, กระสับกระส่าย เอะอะโวยวาย, ซึมมาก, ไม่รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ หรือกระหายน้ำมาก, เลือดออก, อาการเลวลงเมื่อไข้ลง, ผิวหนังเย็น เหงื่อออก, ปัสสาวะน้อย
1. การตรวจหาตัวเชื้อไวรัส หรือชิ้นส่วนของไวรัส/สารพันธุกรรมของไวรัส ตัวอย่างเลือดที่ใช้ควรเป็นตัวอย่างที่เจาะจากผู้ป่วยในระยะที่มีอาการไข้อยู่ ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้การตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส ด้วยวิธี PCR เพราะเป็นวิธีการที่ใช้เวลารวดเร็ว ใช้เวลาตรวจ 1-2 วันเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถบอกชนิดของเชื้อไวรัสเดงกีที่ผู้ป่วยติดเชื้อได้อีกด้วย 2. การตรวจภูมิคุ้มกัน ตรวจพบในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการเจาะเลือดในระยะที่ไข้ลดลงแล้ว ใช้เวลาตรวจ 1-2 วัน ส่งตรวจได้ที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในส่วนภูมิภาค
1. ระยะไข่ ทำได้ง่ายๆโดยการขัดล้างตามผิวภาชนะต่างๆเป็นประจำทุกสัปดาห์ 2. ระยะลูกน้ำและตัวโม่ง กระทำได้โดย ปกปิดภาชนะเก็บน้ำด้วยฝาอย่างมิดชิด, ถ้าเป็นภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ ให้ใส่ทรายอะเบท หรือหมั่นขัดล้าง เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน หรือเลี้ยงปลาหางนกยูง, การใช้แบคทีเรีย BTI, คว่ำภาชนะที่ไม่ได้ใช้, ทำลายเศษวัสดุที่อาจเป็นที่ขังน้ำ,ใส่เกลือ หรือน้ำส้มสายชู หรือผงซักฟอกลงในจานรองขาตู้กันมด เป็นต้น 3. ระยะยุงตัวเต็มวัย สามารถกำจัดได้โดย การใช้สารเคมี, การใช้ไม้แบดไฟฟ้า และการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยใช้สารทาป้องกันยุง (repellents) ในระยะยาวต้องปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไม่ให้เอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของยุงลาย " การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจะได้ผลดีต้องผสมผสานหลายๆวิธี เข้าด้วยกันและความร่วมมือของชุมชนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการควบคุมโรคไข้เลือดออก " |
ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี E-mail = phen213@hotmail.com Tel. 042-219355 Facebook = โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแสนตอ
วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
โรคไข้เลือดออกเดงกี
วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ไข้เลือดออก โรคตัวร้ายที่มียุงลายเป็นพาหะ
ไข้เลือดออก โรคตัวร้ายที่มียุงลายเป็นพาหะ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากยุงซึ่งเป็นพาหะของโรค ไข้เลือดออกนอกจากจะเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยแล้ว ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในเขตร้อนชื้น และก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ปกครองเวลาเด็กมีไข้ และมักพบบ่อยในเด็กต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะช่วงอายุ 2-8 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่จะไม่มีโอกาสเป็นโรคไข้เลือดออกได้ โดยเฉพาะต้องอาศัยอยู่ในแหล่งที่ชุกชุมไปด้วยยุงตัวร้าย

อาการของ ไข้เลือดออก ไม่จำเพาะอาการมีได้หลายอย่าง ในเด็กอาจจะมีเพียงอาการไข้และผื่น ในผู้ใหญ่ที่เป็น ไข้เลือดออก อาจจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ หากไม่คิดว่าเป็น โรค ไข้เลือดออก อาจจะทำให้การรักษาช้า ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิต ทั้งนี้ลักษณะที่สำคัญของ ไข้เลือดออก มีอาการสำคัญ 4 ประการคือ


อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ มีจุดเลือดออกตามตัว






ไข้เลือดออก

โรค ไข้เลือดออก ไม่มีการรักษาเฉพาะ การรักษาเป็นเพียงการประคับประคองอย่างใกล้ชิดโดยการเฝ้าระวังภาวะช็อก และเลือดออก และการให้สารน้ำอย่างเหมาะสมก็จะทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลง โดยทั่วไปการดูแลผู้ป่วยโรค ไข้เลือดออก มีแนวทางการดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนี้





ผู้ป่วยไข้เลือดออก หากมีอาการไข้ลดลง ภายใน 24-48 ชั่วโมง แล้วเริ่มกินอะไรได้ รู้สึกตัวดี ไม่ซึม แสดงว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

เนื่องจากไข้เลือดออกระบาดโดยมียุงเป็นตัวแพร่พันธุ์ ดังนั้นเมื่อมีคนในบ้านหรือข้างบ้านเป็นไข้เลือดออก ควรจะบอกคนในบ้านหรือข้างบ้านว่า มีคนเป็นไข้เลือดออกด้วย และแจ้งสาธารณสุขให้มาฉีดยาหมอกควันเพื่อฆ่ายุง รวมถึงดูแลให้สมาชิกในครอบครัวป้องกันการถูกยุงกัด สำรวจภายในบ้าน รอบบ้าน รวมทั้งเพื่อนบ้านว่ามีแหล่งแพร่พันธุ์ยุงหรือไม่ หากมีให้รีบจัดการและทำลายแหล่งแพร่พันธุ์นั้น เพื่อป้องกันการเป็นไข้เลือดออก
นอกจากนี้ต้องคอยระวังเฝ้าดูอาการของสมาชิกในบ้านหรือข้างบ้านว่ามีไข้หรือไม่ หากมีไข้ให้ระวังว่าอาจจะเป็น ไข้เลือดออกได้

เนื่องจากไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ที่ 1, 2, 3 และ 4 ซึ่งในแต่ละปีจะมีการระบาดของสายพันธุ์ต่าง ๆ สลับกันไป หากผู้ป่วยติดเชื้อไข้เลือดออกสายพันธุ์ใดไปแล้ว ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้นตลอดชีวิต และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันข้ามไปยังสายพันธุ์อื่นได้ระยะหนึ่ง ก่อนภูมิคุ้มกันในสายพันธุ์อื่นจะหายไป ดังนั้น ผู้ที่เคยเป็นไข้เลือดออกแล้วก็ยังสามารถกลับมาเป็นได้อีกในสายพันธุ์ที่ต่างจากที่เคยเป็น แต่ทว่า การติดเชื้อครั้งที่ 2 มักจะมีอาการรุนแรงกว่าการป่วยครั้งแรก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักติดเชื้อไม่เกิน 2 ครั้ง

ทุกวันนี้ยังไม่ยาที่ใช้รักษา ไข้เลือดออก ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดโดยป้องกันการแพร่ของยุง

ยุงลาย พาหะนำโรคไข้เลือดออก

การควบคุมสิ่งแวดล้อมเป็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ยุงมีการขยายพันธุ์























หากใครมีข้อสงสัย หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคไข้เลือดออก สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) หมายเลขโทรศัพท์ 089-204-2255 ตลอด 24 ชั่วโมง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)