วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับเพิ่มความจำ



1. อาหารเพิ่มความจำดี อยู่ในอาหารกลุ่มวิตามินบี เช่น นมพร่องมันเนย กล้วย ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วต่าง ๆ ผัก ผลไม้ ช่วยป้องกันสมองเสื่อม ความจำเลอะเลือน
กลุ่มธาตุเหล็ก เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล มีผลต่อไอคิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวกับระบบการคิด ไข่แดง ตับ ถั่วลิสง เนยถั่ว บำรุงเซลล์สมอง ปลาที่มีโอเมก้า 3 อาทิ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาแมคคอเรล ช่วยป้องกันความจำเสื่อม
2. ออกกำลังเพิ่มความจำ การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้เลือดนำออกซิเจนไป เลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้นทั้งนี้ควรออกกำลังกายให้หลากหลายประเภท เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองจากการฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ เช่น การเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก หรือว่ายน้ำ เป็นต้น
3. นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองเซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ
4. บริหารสมองด้วยเกมส์เสริมทักษะ อาทิ การเล่นหมากรุก หมากล้อม เล่นเกมคอร์สเวิร์ด ฯลฯ ซึ่งต้องใช้ความคิด เซลล์สมองจะเจริญเติบโตมากขึ้น ความสามารถในการจำก็จะดีขึ้นด้วย

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เบาหวานกับการดูแลสุขภาพเท้า


             ปัญหาที่น่ากลัวของผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการเป็นแผลที่เท้า เพราะหากไม่ดูแลให้ดีอาจสูญเสียขาและเสียชีวิตได้ ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยเบาหวานก็มีแนวโน้มการถูกตัดขาเพิ่มขึ้นจากการเป็นแผลที่เท้า จากข้อมูลของสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พบว่า ทุก 1 ปี มีผู้ป่วยเบาหวานถูกตัดเท้าถึง 1 ล้านเท้า
      
       สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานเกิดแผลที่เท้าได้ง่าย เพราะ
1.การเสื่อมของเส้นประสาทส่วนปลายซึ่งรับความรู้สึก ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเหยียบวัตถุมีคม หรือโดนวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงหรือการกดรัดที่เท้า จึงเกิดแผลโดยไม่รู้ตัว
2.โรคหลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน ทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง เกิดเนื้อตาย หรือเมื่อเกิดแผลจากเหตุใดก็ตาม แผลจะหายยาก
3.การติดเชื้อง่าย เมื่อควบคุมเบาหวานไม่ดี ระดับน้ำตาลสูง จะทำให้ความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อโรคลดลง ทำให้เชื้อโรคลุกลาม และ 4.ภาวะเส้นประสาทอัตโนมัติเสื่อม ทำให้ไม่มีเหงื่อออกผิวหนังบริเวณส่วนขาจึงแห้ง คัน หากเกาอาจมีแผลแตกและติดเชื้อได้ง่าย
        เมื่อผู้ป่วยเบาหวานเกิดแผลที่เท้า แผลจึงมักหายยากและเรื้อรัง ลุกลามได้ง่าย จึงเป็นต้นเหตุในการตัดขา ซึ่งพบสูงถึง 15-40 เท่าของผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน ยิ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนานกว่า 25 ปี ขึ้นไปมีโอกาสต้องถูกตัดขาสูงถึงร้อยละ 11




วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิธีทำน้ำเกลือแร่

เกลือแร่

1.ผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS)
        การใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่นั้นให้ดูที่ฉลากหน้าซองว่าผสมกับน้ำในสัดส่วนเท่าไหร่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ผงน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซองเล็ก จะผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรรู้ไว้ด้วย คือ ต้องไม่ใช้น้ำร้อนในการละลาย
สรรพคุณ: ใช้ทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่ในรายที่มีอาการท้องร่วง หรือในรายที่อาเจียนมาก  หรือเสียเหงื่อมากก็ได้. นอกจากนี้ ยังใช้ป้องกันการช็อกจากการเสียน้ำมากได้ด้วย.
ขนาดและวิธีใช้: เทผงยาทั้งซองลงในน้ำดื่ม 1 แก้ว (สำหรับซองเล็ก) หรือ 1 ขวด (สำหรับซองใหญ่), ใช้ดื่มบ่อยๆ แทนน้ำเมื่อเริ่มมีอาการท้องร่วง. ถ้าถ่ายบ่อย ให้ดื่มบ่อยครั้งขึ้น. ถ้าอาเจียนด้วย ให้ดื่มทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง. ให้ดื่มแทนน้ำตามปริมาณอุจจาระและปัสสาวะที่ถ่ายออกไป หรือจนกว่าปัสสาวะออกมากและใสหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น.
คำเตือน: คนที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ หรือบวม ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง, เพราะอาจทำให้บวมและเหนื่อย. เมื่อละลายยาในน้ำแล้ว อย่าทิ้งไว้เกิน 24 ชั่วโมง ยาจะบูดเสีย ไม่ควรใช้.


2. น้ำเกลือชาวบ้าน
สรรพคุณ: ใช้ทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่เช่นเดียวกับผงน้ำตาลเกลือแร่. โดยสามารถผสมเองตามสูตรผสม ดังนี้
น้ำสุก 1 ขวด (ขวดน้ำปลากลม 750 มล.).
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (หรือ 2 กำมือ).
เกลือ ครึ่งช้อนชา (1-2 หยิบมือ).
นำมาผสมกันหรือต้มรวมกันก็ได้.
ขนาดและวิธีใช้: เช่นเดียวกับผงน้ำตาลเกลือแร่.
ข้อควรระวัง : ถ้าดื่มไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมงให้เททิ้งแล้วผสมใหม่


 
 
ขอขอบคุณบทความจาก ความรู้รอบตัว.com